Wednesday, October 12, 2011

AT&T Worst of the WORST experience

คำเตือน BLOG นี้ ใครไม่ชอบตัวหนังสือ และเบื่อคนขี้บ่น ให้ปิดหน้าต่างไปได้เลย!!



 ก่อนคุณพี่ Steve Jobs จะลาจากโลกนี้ไป วันที่ 4 ตุลา วันอังคารสายๆ iPhone4S แทนที่จะเป็น iPhone 5 ก็ได้ถูกแนะนำตัวเข้าสู่วงการ 

ไม่ได้มีอะไรใหม่มากมายนอกจากนัง Siri ที่บอกว่าจะมาเป็นเลขาส่วนตัว

>>>(นึกในใจว่า ณ จุดนี้มันคงสั่งได้แต่ภาษาอังกฤษ แล้วนัง Siri มันจะฟังสำเนียงตรูออกมั้ยเนี่ย)

มีกล้อง 8 เมกะพิกเซล
>>> ได้ข่าวว่า Nokia มีมานานชาติเศษ

เร็วขึ้นแรงขึ้น
>>> จะเอาไปแข่งรถรึไงฮะ

มากับ IOS5 + iCloud
>>> ที่แมร่ง ต้องเสียตังรายเดือนเพิ่ม...

คุยไปคุยมา เจ๊ก็ เข้าไปคลิ๊กสั่งงงงง!!!!! สิริรวมเวลาประมวลผลแล้วประมาณ 3 วัน
สั่ง online ไปเมื่อศุกร์กลางคืน หลังจากที่คำนวณ Breakeven แล้วว่าน่าจะคุ้มล่ะน่า

เพราะว่าคุณชายใกล้ตัวนั้นเป็นญาติสนิทกับ Steve Jobs เมื่อชาติก่อนรึไงนะ ผูกพันกับผลิตภัณฑ์ Apple เหลือเกิน ... คุณชายเห็นดีด้วย ก็เอาวะ (แถมเชียร์ให้สอย 64GB แบบ MAX อีกแน่ะ)

เพราะว่าคุณชายจะมาเยี่ยมช่วงเดือนธันวา ก็น่าจะโอเค ถ้าให้เฮียแกกลับไป unlock แล้วแลกกับ iPhone4 ของเฮียก่อน

เพราะว่า บริษัทเรามีส่วนลดพิเศษกับ AT&T (จริงๆก็มีกับ Verizon + Sprint ด้วยอะนะ) และ เราติด Internet ของ ATT ถ้าสมัครเป็น Bundle คือหลายบริการรวมกัน ก็จะลดค่าเนตอีกเดือนละ $5

สรุปรวมแล้ว ก็เลยสั่งไป iPhone 4S 64GB White = $399 + tax
ติดสัญญาสองปี

เป็นโปรพนักงาน เลยได้ส่วนลด 25%
จาก $29.99 บวก $5 off เหลือ $24 กว่าๆ
Data plan 2GB $18

สรุปต้องเป็นทาสมือถือรายเดือนเดือนละ สี่สิบกว่าเหรียญ จากเดิมที่จ่ายเดือนละ $30 ก็พอทำใจได้ >__<

สี่วันผ่านไป จากที่คาดว่ามันน่าจะเตรียม ship แล้ว
และเราน่าจะเป็นหนึ่งในมนุษย์ยุคแรกที่ได้มันมาครอบครอง กระหยิ่มในใจ (นิดๆ)

แล้วแม่มมมมม มีเมลมา บอกว่าออเดอร์มีปัญหา ฝากเบอร์ไว้ให้โทรกลับไปหามัน (ไม่โทรมาหาตรูซึ่งเป็นลูกค้าเลยซักนิด)

Attempt 1-- online chat คุยๆซะดิบดี สุดท้ายมันบอกว่า เราเป็นลูกค้าองค์กร มันให้บริการไม่ได้
ให้โทรหาเบอร์ XXX ซึ่งเป็นเบอร์บริการลูกค้าองค์กร

Attempt 2-- โทรหาเบอร์ที่ให้มา โทรติด แต่โดนมันตัดสาย ก่อนตัด อี Auto oper ก็บอว่า "Due to (our) technical problem, please call back again" ตู๊ด ตู๊ด

Attempt 3-- เป็นเหมือนเดิม เลิกละ (แรก ๆ กะว่าจะเปลี่ยนโปรซักกะหน่อย)

Attempt 4-- เมื่อคืน ก็พยามโทรหา รอสายนานเหมือนเดิม

Attempt 5-- เมื่อสายๆ วันนี้ รอไป 58 นาที ยังไม่ได้ต่อไปหา operator

Attempt 6 -- ขาดผึง เมื่อรอไปชั่วโมงกว่าๆ operator รับแล้วบอกว่า ออเดอร์เรามีปัญหาเพราะ Credit Bureau (สถาบันที่ไว้เช็คเครดิตของลูกค้า) ไม่สามารถหาเบอร์ Social Security เราในระบบได้

Whatttt!! มันจะเป็นไปได้ไงอะ เราก็บอกไปว่าเราเป็นลูกค้า AT&T ซึ่งผ่านเครดิตเช็คมาแล้วนะ

แล้วเราก็ใช้บัตรเครดิต กินเงินเดือนที่นี่ เรามีข้อมูล report ในเครดิตบูโรอยู่แล้ว

พนักงานช่วยเหลือมากกกกกก (เสียดสี)  ให้เบอร์ติดต่อ Credit Bureau พูดประมาณว่าให้ไปโทรเองแล้ววกัน เพราะเค้าเองก็ไม่รู้เรือ่งเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ในระบบมันบอกแค่ว่าไม่สามารถตรวจสอบเครดิตได้  ซึ่งเป็นคนละกรณีกับตรวจแล้วแต่ไม่มีเครดิต

เราถามไปว่า แล้วถ้าโทรไปหาเครดิตเคลียร์ได้แล้ว ต้องโทรกลับมาบอกใหม่ใช่มั้ย
เพราะถ้าไม่ verify  ว่าเรียบร้อย ออเดอร์ก็จะถูกยกเลิกในเจ็ดวัน

เรา: ต้องรอสายอีกชั่วโมงนึงใช่มั้ย
พนักงาน: ก็ใช่ เพราะว่าคนโทรมาเยอะมากสสสส
เรา: มีเบอร์ต่อตรงมั้ย จะได้บอกว่าเคลียร์แล้ว
พนักงาน: ไม่มีเบอร์ตรง เพราะว่า อี เครดิตบูโร นั้นเป็น 3rd party
เรา: (นึกในใจ) แล้วตอนที่โทรถามว่าเรามีปัญหาอะไรนี่โทรหาใคร (ฟระ)
พนักงาน: มีอะไรให้ช่วยอีกมั้ยคะะะ
เรา:ช่วยยกเลิกออเดอร์ไปเลยคร่าาาาา 
กรูทนไม่ไหวแล้วววววว
ไม่เคยรอสายใครนานเป็นชั่วโมงขนาดนี้
ไม่เคยเจออะไรที่ไหน ที่ไม่โทรหาลูกค้า แม้แต่ให้เบอร์ให้อะไรติดต่อไว้แล้วก็ไม่โทร

ยกเลิกแล้ว ก็ตะหงิดๆ ในใจ โทรไปหาเครดิตบูโรตามเบอร์ที่ให้มา

ปรากฎมันเป็นระบบ Auto ที่ฟังเท่าไหร่ก็ไม่วันติดต่อ operator ที่เป็นมนุษย์ได้
ก็เลยทุ้มอยู่ในใจ ดีแล้วที่ยกเลิกกับมันไปซะ พอกันที่ online order

ตกเย็นเลิกงาน ไม่ลดละ

แวะไป AT&T shop ร้านตัวเป็นๆ ที่ Columbus ใกล้ๆ ลูกค้า
เนื่องจากมีเพื่อนสิงคโปร์อีกคนบอกว่า เค้าก็มีปัญหากับการสั่งออนไลน์เลยไปสั่งที่ร้านแทน

เจอพนักงานหน้าเอเชีย แต่เป็นคนอเมริกันชื่อ Alfred บริการดีเชียว
เราโดนเช็คเครดิตบูโร โดยมีให้ต่อสายตอบคำถาม Security นิดหน่อยแค่สองคำถาม

สิบกว่านาทีเรียบร้อยยยยยย

เลยได้เปลี่ยน plan และเปลี่ยน order จาก 64 เป็น 32GB เพราะคิดไปคิดมา เราว่ามันเกินจำเป็น
เดี๋ยวใช้ iCloud ก็น่าจะประหยัดพื้นที่ได้ (คิดว่าคุณชายจะสมัครเสียตังแหงมๆ)

ข้อดีก็คือ ไม่ต้องไปหงุดหงิดกับการรอสายนานๆแบบนั้นแล้ว
แถมโปรพนักงานก็ได้เหมือนกันทุกอย่างด้วย

แต่ข้อเสียก็คือ จะได้ช้ากว่า ถ้าสั่งออนไลน์จะได้ 14 นี้แล้ว ส่วนเราต้องรอไปอีก 2-3 อาทิตย์

ซึ่งจริงๆก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร

ข้อคิดของวันนี้ 

  • ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า (โดยเฉพาะที่ AT&T)
  • ระบบ auto call center ของอเมริกาเป็นที่เลื่องลือมาก ว่าหงุดหงิด น่ารำคาญ วนเป็นลูป จิ้มไปจิ้มมา กลับมาเมนเมนูเหมือนเดิม -"-
  • ซื้อของออนไลน์ก็ไม่ได้ดีกว่าการไป shop จริงๆ เสมอไป


  • ถึงไม่พอใจในบริการขนาดไหน ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเลิกเป็นลูกค้า (นี่คือ low bargaining power ตามหลัก marketing สินะ)
  • ถึงไม่เคยอยากได้อะไร แต่เห็นแก่ความประหยัดเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำให้เสียตังก้อนใหญ่เป็นหมื่นได้ (เรียกว่า เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย)
  • สั่งอะไรไปแล้วก็ยกเลิกได้เสมอ
  • คุณสามารถรอสายนานเป็นชั่วโมงได้ แค่ทำงานไปด้วย และเปิดลำโพงทิ้งไว้
  • คนเราโง่ได้ และอดทนได้มากกว่าที่คิด -_-
เราเป็นต้น!!!! อร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกก

No comments:

Post a Comment