Thursday, August 18, 2011

จุดจบ=จุดเริ่มต้น Ending = Beginning



และแล้ว ก็เดินทางมาถึงคืนสุดท้าย

อาทิตย์ที่ผ่านมาเต็มอิ่มกับการเดินสายกินเลี้ยง เลี้ยงส่ง นัดเจอเพื่อนเก่าๆ เป็นอาทิตย์ที่มีความสุขมากๆ
และอืดอ้วนมากๆเช่นกัน

มาถึงตอนนี้แล้ว...ความรู้สึกก็บอกไม่ถูกนะ มันปนๆกันไป ถ้าใครที่เคยจะไปเรียนต่อ หรือไปไหนไกลๆบ้าน อาจจะพอเข้าใจได้ไม่ยาก เดี๋ยวมันคงชินไปเองล่ะนะ

มีความสุข  (^____^) ...ที่จะได้ไปในที่ๆใฝ่ฝันและอยากไป จนสุดท้ายสำเร็จ ได้ไปซักที เย้ๆๆๆ

ตื่นเต้น  (>___<) toki doki ... ที่จะได้ไปใช้ชีวิตทำงานในต่างแดนแบบคนทั่วไป มีบ้าน มีรถ อยู่ด้วยลำแข้ง (ใหญ่ๆ) ของตัวเอง

คิดถึง (เล็กๆ) (U__U)'... เวลาเห็นครอบครัว พ่อ แม่ น้อง และแฟน ที่กว่าจะได้เจอกันอีกก็คงอีกซักพักใหญ่ๆ

เศร้าใจ (T___T) ... กับข้าวของที่รักมากมายแต่เอาไปไม่ได้ เพราะน้ำหนักกระเป๋าแทบล้นแล้ว ฮืออออ ใจจริงอยากแบกลำไย กับเงาะกระป๋องมาลีไปกินด้วยนินาาาาา

ยากจน ($___$) แบบว่า ต้องแบกเงินไปเพื่อซื้อรถ และเริ่มใช้ชีวิต กลัวมีตังไม่พอ เพราะที่เหลืออยู่ในกองทุนรวมหมดแล้ว และการไปครั้งนี้ก็ไม่ได้พึ่งพาเงินของพ่อแม่ แต่ยังดีที่ได้เงินอุปการะจากบริษัท ขอบคุณค่า

ความรู้สึกมันปนเปกันเนอะ แต่โดยรวมความรู้สึกที่เราต้องมี ณ จุดนี้ก็คือ เราต้อง

"สู้" และ "เข้มแข็ง" มาถึงจุดนี้แล้วต้องเดินหน้าก็ใส่เกียร์ D อย่างเดียวววว!

PS ขอบคุณ เพื่อนๆที่ทำงาน เพื่อนที่เตรียม และเพื่อน BBA ที่ได้มาเจอกันก่อนไปนะ
เป็นช่วงเวลาแห่งความทรงจำมากมายยย :-)

ส่วนคืนนี้ก็คงมาราธอนกับการเก็บกวาดข้าวของที่กองไว้ และตรวจเช็คว่าจะลืมอะไรที่ควรเอาไป และควรจะต้องตัดใจเอาอะไรที่จำเป็นน้อยที่สุดออกบ้าง

สามารถติดตามชีวิตในต่างแดนได้นับจากนี้ผ่าน http://www.toffee-in-usa.com/ จ้าาาา

Good bye Thailand!   

Hello! USA! 

Tuesday, August 16, 2011

Quiz นิสัยการสั่งอาหาร--ทำให้คุณรู้ว่าคุณเหมาะกับสาขาอาชีพนี้หรือไม่

วันนี้ลองมาทำ quiz กันดูนะ

ให้ทุกคนหยิบปากกาและกระดาษขึ้นมา แล้วจดคำตอบลงไปในใจ เรา GO GREEN กันแล้วนะเธอว์!!

ลองนึกดู ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน คุณมีพฤติกรรมเหล่านี้หรือไม่

คำตอบจะมี "ใช่"  "มีงี้ด้วยเหรอออ" "จะดีหรอออ" แล้วลองมาดูผลทดสอบกัน

1) คุณตั้งใจไปร้านอาหารที่ใดซักที่เพียงเพราะมันมีโปรโมชั่น บัตรลด ของแถม (แต่ก็แอบนึกในใจเล็กน้อย ว่ารสชาติก็ต้องไม่แย่มากนะ)

2) คุณมักจะมองหาเมนูโปรโมชั่น เซทที่คุ้มสุดๆ menu of the day ที่มันอร่อย และดู(ถูก)ดี

3) คุณมักจะคอยจ้องเวบดีลคูปองต่างๆ คุณรู้จักเวบดีลคูปองอย่างต่ำ 3 เวบ และเคยซื้ออย่างน้อยสามครั้ง

4) เวลาเช็คบิล คุณไม่เคยลืมที่จะตรวจดูรายการอาหารที่กินว่าครบ ขาด หรือเกิน

5) คุณมักจะจำรายการอาหารที่คุณสั่ง และราคาอาหารได้อย่างแม่นยำ

6) เวลาไปทานข้าวกันเป็นกลุ่มแบบแชร์ คุณมักจะเป็นคนคิดเงิน ที่คอยคิดว่าหารแล้วกี่บาทต่อหัว

7) คุณมักจะถามทางร้านอาหารว่า "บัตรอะไรลดได้บ้าง"

8) คุณนึกอยู่บางครั้งว่า ถ้าร้านอาหารมี preliminary draft สำหรับบิลค่าอาหารก็คงจะดี (ถ้าไม่รู้จักว่า preliminary draft คืออะไร ให้ตอบไปเลยว่า "มีงี้ด้วยเหรอ")

9) คุณเคยเหวี่ยง วีน หรือตามพนักงานมาอย่างมั่นใจ และบอกว่า "ขอโทษนะ สั่งไปนานแล้วยังไม่ได้!"

10) สำหรับร้านอาหารที่คิวยาวๆ คนเยอะๆ คุณมักจะคอยสอดส่องโต๊ะอื่นๆเสมอ ว่าใครมาหลังได้ก่อน ใครสั่งที่หลังแต่ได้แล้ว บ้านแตกกกก

11) คุณรู้สึกไม่สบายใจ เสียดาย รู้สึกเหมือนถูกดูหมิ่น ดูแคลนความสามารถ ถ้าคุณจ่ายค่าอาหารไปแล้ว และค้นพบว่า มันมีโปรโมชั่นที่คุณไม่ได้สั่ง มีบัตรลดแต่ไม่ได้ใช้ มีของแถมแต่โดนอม

12) คุณไม่รู้สึกลังเล ที่จะกลับไปร้านอาหารใดๆ ที่คิดราคาผิด หรือลืมให้บัตรสะสมแต้ม เพื่อทวงสิทธิ์นั้นคืน เดี๋ยวนี้!

13) คุณมักจะรู้สึกว่า เพื่อนๆ ของคุณไม่ได้เป็นแบบคุณ

14) คุณรู้สึกสนุกจริงๆ ที่ได้ทานอาหารร่วมกับเพื่อนของคุณ และพูดคุยกันว่า กินอะไร กินเมนูไหน และใช้บัตรลดอะไรจะคุ้มสุดๆ ไปเลยยยย


เฉลย

หากคุณตอบว่า "ใช่" หลายข้อเว้ยเฮ้ยย
แสดงว่าคุณเป็นคนคิดรอบคอบ (Professional Skepticism) มีดีเทล และใส่ใจในรายละเอียด
อาชีพที่เหมาะกับคุณคือ
BRAVO!!! .....ขอต้อนรับคุณ สู่สายอาชีพบัญชีและการเงิน.......
หากคุณทำงานสายอาชีพนี้ยู่แล้ว ขอบอกว่าคุณมาถูกทาง นี่แหละคืออาชีพที่เหมาะกับคุณแล้ว!
หากคุณไม่ได้ทำสายอาชีพนี้อยู่ ขอบอกว่า คุณพลาดอย่างแรงงงงส์ ที่จะได้เจอคนมากมายที่เหมือนคุณ

หากคุณตอบว่า "มีงี้ด้วยเหรอออออ" หลายๆข้อ
แสดงว่าคุณเป็นคนมองโลกในแง่ดีแบบ หยวนๆไปเหอะ เป็นคนแบบว่า อะไรก็ได้สบายๆ ไม่มีปัญหา อย่าคิดมากน่าาาา ไปเหอะะะ

ขอเตือนให้คุณไตร่ตรองชีวิตให้รอบคอบ เพราะคุณน่าจะเคยถูกคนอื่นเอาเปรียบ สวมสิทธิ์โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว (ถึงคุณจะยินดีก็เถอะ!)

อาชีพที่เหมาะกับคุณคือ อาชีพอื่นๆ ที่ไม่ใช่สายอาชีพบัญชี
เพื่อนที่เหมาะกับคุณคือ คนที่ตอบว่า "ใช่" หลายๆข้อด้านบน (สามารถเป็นเพื่อนกับเจ้าของ blog ได้นะ)
คู่รักที่เหมาะกับคุณคือ ....เอิ่มม คิดเอาเองแล้วกันนะว่าอยากได้แบบไหน 

หากคุณตอบว่า "จะดีหรออออ" หลายๆข้อ
ขอบอกว่า คุณต้องพกความกล้าให้มากขึ้นแล้วล่ะ มีหลายสิ่งมากมายในโลกนี้ ที่ถูกและดีคุ้มค่าคู่ควรกับคุณ
คุณต้องเริ่มวางแผนต่างๆกับชีวิตของคุณแล้วล่ะ โดยเฉพาะการรับประทานอาหาร หรือการชอปปิ้งเนี่ย สามารถช่วยคุณประหยัดเงินได้ปีละหลายพันบาทเลยทีเดียว

คริคริ  ทำควิซเสร็จแล้ว หวังว่าคุณคงจะเข้าใจตัวเองมากขึ้น และเลือกสาขาอาชีพที่เหมาะกับตัวเองได้นะคะ

PS โปรดอ่านคำเตือนบนฉลากก่อนทำควิซทุกครั้ง สายอาชีพนี้ไม่ได้เป็นแบบนี้กันทุกคนนะคะ

โฆษณา  หากหนุ่มๆ สายอาชีพอื่นสนใจสาวๆ ที่มีสามารถปกป้องคุ้มครองสิทธิ์ของคุณได้ สามารถติดต่อเราได้นะ เราเป็นตัวแทนจัดหาคู่ให้ได้ สามารถเลือกได้เริ่มตั้งแต่ดีกรี "ใช่ไม่กี่ข้อ" จนถึง "ใช่ทุกข้อ" ได้เลยจ้า

ไปแพคต่อละ เพ้อเจ้อออจริงเรา ^_^"

Monday, August 15, 2011

ในกระเป๋านั้นมีอะไร? (1)

เดินทางวันศุกร์ 19 สิงหาคม ที่จะถึงนี้แล้ว

รายงานสถานะตอนนี้ กระเป๋าเต็มแล้ว 1 ใบ (23 กิโลเด๊ะ) เริ่มรู้ตัวว่าใส่แต่ของจุ๊กจิ๊กแนวว่าไม่น่าจะหาได้ง่ายๆที่นั่น ตอนนี้ก็เหลือใบใหญ่อีก 1 ใบ และกระเป๋าขึ้นเครื่องที่ได้ประมาณ 7-8 โล (กะว่าจะลักไก่ให้ได้ซักสิบโล)

แนวคิดในการที่เราจะเอาหรือไม่เอาอะไรไปมีทั้งหมด 3 หลักการใหญ่ๆ
1) น้ำหนัก คือถ้าหนักเกินไป หรือมีขนาดใหญ่คับกระเป๋ามาก ก็จะต้องพิจารณา
2) ราคา ว่าราคาของของที่จะเอาไปนั้น คุ้มค่ากับการแบกไปมั้ย หรือไปซื้อใหม่เอาจะง่ายกว่า ขอบอกว่า สิ่งที่เราเอาไปนั้น ใช่ว่าจะหาไม่ได้ที่อเมริกา เนื่องจากถ้าลอง search ebay/ amazon ก็คงมีอยู่แล้ว แต่ต้องดูด้วยล่ะ ว่าถ้าของมันเบาๆ และพอเอาไปได้ง่ายๆ ก็แบกไปเถอะ!
3) ความพอใจ override ทุกสิ่ง แหะๆ  มันก็ต้องมีบ้าง ที่ของบางอย่างดูแล้วไม่จำเป็นอย่างแรง แต่ว่า "ฉันอยากเอาไปด้วยยยย"  ก็จะเอาไป จบ!

มาดูกันว่าของสำคัญ(สำหรับเรา) ที่แพคเข้ากระเป๋ามีอะไรบ้าง

ของใช้:

ไม้แขวนเสื้อใหญ่ๆ เอาไปประมาณโหลหนึง จากปสก รู้สึกว่าไม้แขวนเสื้อเป็นอะไรที่ขาดแคลนตอนเริ่มชีวิตอย่างรุนแรง แล้วไม่ชอบของเมืองนอกเลย ที่มันมักจะเป็นพลาสติก ไอ้ที่เป็นแบบเหล็กๆ ก็มักจะแพงเกินเหตุ เลยเอาแบบเบาๆไป

ปิ่นโตแบบญี่ปุ่น คิดว่าจะพยายามทำกับข้าวกินเองให้มากขึ้น เลยติดปิ่นโตแบบเก็บความร้อนไป 1 เซต และไม่ลืมของเก๋ๆ อย่างพวกอุปกรณ์ตกแต่งอาหาร ขวดใส่โชยุแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง


ผ้าอนามัย ขาดไม่ได้เลยทีเดียว *_* ถามว่าที่นั่นไม่มีเหรอไงยะะะ  ก็มีแต่ 1) แพงงงง 2) ไม่ถูกใจ ที่อเมริกามันเน้นพวก ผ้าอนามัยแบบสอดแนว tampon อะ มีวิวัฒนาการ และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ดีมากกก แต่แบบธรรมดาไม่ค่อยเร้าใจเท่าไหร่ รวมถึงพวกแผ่นอนามัยด้วย  ในเมื่อมันไม่ค่อยหนักเท่าไหร่ ก็เลยอัดๆเข้าไป แบบว่าเอาให้พอใช้เป็นปีเลย 555  และที่สำคัญ เสี่ยงใช้ยี่ห้อใหม่ๆ บางทีก็แอบคัน ไม่ก็ชอบห่อตัวด้วย (inside มากๆ)

ใยบวบขัดผิว  อันนี้ก็ดูจะขำๆ แต่ขี้เกียจไปหาซื้อเอาใหม่นี่นา แล้วมันก็เบาและแบนมากๆ
ที่เราเอาไปก็แค่สองอย่าง คือบวบขัดตัว กับไม้บวบขัดหลัง

เกร็ดความรู้ การใช้ใยบวบขัดผิวนั้น นอกจากจะช่วยขัดขี้ไคล ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้นแล้ว ยังช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือด และเผาผลาญพลังงานมากกว่าการอาบน้ำธรรมดานิดหน่อย ได้ burn เพิ่มขึ้นซัก 10 แคลอรี่ก็ยังดี (วะ)



ที่ชาร์จต่างๆ ดูแล้วก็แอบเศร้าใจเหมือนกัน ที่เดี๋ยวนี้คนเราต้องพึ่งการใช้ไฟฟ้ามากขนาดนี้ แต่ก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการใช้ชีวิตจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ชาร์จ กล้อง, ipad, มือถือ, notebook  ต้องเอาไปให้ครบ ไม่งั้น gadget ทั้งหลายที่เอาไปคงไม่มีความหมายอะไรเลย  >_< 
แต่ถ้าลืมจริงๆ ก็ไปรอกดซื้อจาก eBay ได้ ซึ่งจะต้องรอไปอีกสองสามอาทิตย์เลยทีเดียว หรือถ้าอยากได้ด่วนก็ไปหาเอาตาม Walmart/ Bestbuy แต่ถ้าสิ่งที่เราใช้เป็นของแปลก อย่างมือถือที่ตกรุ่นไปแล้ว ก็อาจจะหาไม่ได้ หรือพวกชาร์จ ipad iphone หาง่ายแต่ซื้อ shop ก็แพงโคตรอะนะ

ยา  จริงๆ บริษัทที่เราไปทำงานก็คงมีประกันสุขภาพให้ แต่ว่าที่อเมริกาเวลาหาหมอเนี่ย ต้องนัดเวลาไปตามนั้น ซึ่งโดยปกติ เราไม่ค่อยเป็นอะไรหนักๆ อยู่แล้ว เลยคิดว่าน่าจะจัดการดูแลตัวเอง และคนรอบข้างได้ก่อน
อุปกรณ์ยาพื้นฐานที่เอาไปก็มี  ยาแก้หวัด เอาไปแต่ดีคอลเจนแค่สามสี่แผง เพราะว่าเป็นหวัดทีไรมักจะมีไข้ร่วมด้วย, ยาแก้ปวด (Tylenol), ยาแก้ไอ, ยาฆ่าเชื้อสำหรับเวลาท้องเสีย, ยาแก้อักเสบแบบแผง สำหรับกรณีที่เป็นหนัก (อันนี้เป็นยาอันตรายนิดนึง ที่ควรกินให้ครบ doze เพื่อป้องกันการดื้อยา) และยาทุกตัว เราต้องรู้เองนะ ว่าแพ้ตัวไหนรึเปล่า อย่าลืมปรึกษาเภสัชด้วยว่าควรกินอะไรยังไง

ยาสิว ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ คนส่วนใหญ่ที่ไปอเมริกา สิวบุกทั้งงั้น สาเหตุก็เพราะในน้ำประปาที่มาตามบ้านนั้น มันใส่สารเคมีเพื่อฆ่าเชื้อโรค (น้ำประปาที่อเมริกาดื่มได้เลย) ทุกครั้งที่ไปแล้วกลับมาเมืองไทย เราก็ต้องไปหาหมอสิวทุกที เพราะสิวผดบุกเต็มหน้าเลย
ยาที่จะเตรียมไปก็เป็นยาสำหรับสิวผด และสิวอักเสบพื้นฐาน คือ
- Clinda Mycin เป็นโลขั่นน้ำแต้มสิว
- BP ที่ทาก่อนล้างหน้า
- ครีมแต้มสิว ICM ที่ชอบใช้เวลาสิวอักเสบขึ้น
- เหน็บ Paula's Choice เผื่อสิวเม็ดเล็กๆ
  ไม่ได้เอาไปเยอะ เพราะคิดว่าถ้าอาการหนักจริง คงโทรกลับมาสั่งให้น้องไปซื้อยาที่ร้านหมอสิวให้ดีกว่า


คอนแทคเลนส์ เนื่องจากการซื้อคอนแทคเลนส์ที่อเมริกาเป็นเรื่องค่อนข้างยุ่งยาก คือต้องมีใบสั่งยา หรือ spec ตา ไม่สามารถซื้อสุ่มสี่สุ่มห้าได้แบบที่นี่ ก็เลยซื้อตุนไว้หลายเดือนเหมือนกัน
เราสายตาไม่สั้นมาก (สั้น 100 ทั้งสองข้าง) ก็เลยพกแว่นสายตาที่ปกติไม่ค่อยได้ใส่ไว้อีก 1 อัน เผื่อฉุกเฉิน
แล้วก็น้ำยาแช่คอนแทคเลนส์ เอาไปสองขวด คิดว่าถ้าหมดก็จำใจไปซื้อที่นั่นละ ไม่แพงมากเท่าไหร่ แต่ถ้าที่เหลือแบบไปก็ดีเหมือนกัน (แอบงก)

ของใช้ที่สำคัญๆ ก็มีประมาณนี้ เดี๋ยวต่อเรื่องของกิน blog หน้านะ

ตอนนี้ไปแพคของ เก็บบ้านต่อก่อน T_T