Monday, March 11, 2013

ประสบการณ์ขายของก่อนกลับ

ถ้าไม่นับเรื่องเก็บของ เตรียมเอกสารก่อนกลับที่มากมายก่ายกองแล้ว
การที่ต้องขายของ(ที่เคยซื้อมา) ก็เป็นอีกเรื่องที่สาหัสทีเดียว

ยังดีที่อเมริกามีเวบ Craigslist.org ที่เป็นเวบบอร์ดฟรีสำหรับให้คนอยากซื้อ ขาย ของ
ซึ่งจะแบ่งหมวดหมู่ตามเมือง และตามประเภทของ มีขายตั้งแต่สากกระเบือยันเรือรบ
รวมถึงการนัดเดท นัดนุ้งนิ้งกันก็ทำได้ไม่ผิดกฎหมาย -_-"
แต่แน่นอน การขายสินค้าผิดลิขสิทธิ์ ขายยา อะไรทำนองนั้นทำไม่ได้อยู่แล้ว

เราเลยอาศัยเวบนี้แหละ ขายทั้งเฟอร์นิเจอร์ ของใช้จุกจิก รวมถึงขายรถ

ขั้นตอนการขายก็ทั่วไป คือโพสต์รูป ลงรายละเอียด ราคา
ส่วนเบอร์ติดต่อก็แล้วแต่ความสมัครใจ ทางที่ดีไม่ต้องลงเมลส่วนตัวไว้ เพราะแสปมเมลขายบริการ sex call มาเยอะมากส์! (ขอบคุณ gmail ที่ดักไว้ให้)

ส่วนเวบ craigslist เอง ก็มีบริการแปลงอีเมลส่วนตัวเราเป็นอีเมลกลางที่ไม่มีใครรู้อยู่แล้ว
เวลาใครสนใจอีเมลหาเรามันจะไปผ่านระบบเมลของเราก่อน ทำให้เราเห็นอีเมลของคนที่เขียนมาหาเรา แต่คนเขียนไม่เห็นเมลจริงของเรา จนกว่าเราจะตอบกลับ

เราเองไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็โพสต์เบอร์โทรทิ้งไว้เลย แล้วเลือกรับโดยการโทรกลับเฉพาะคนที่ทิ้ง voice mail ไว้เท่านั้น บางคนฉลาดหน่อยก็จะลองดูว่าเบอร์เราเป็น imessage รึเปล่าก็ chat กันต่อได้

สิ่งที่ต้องระวัง

ความปลอดภัย
เนื่องจากทุกคนเป็นคนแปลกหน้า ไม่มีการลงทะเบียน บัตรปชช ไม่มีการการันตีใดๆทั้งสิ้น เพราะฉะนั้นเราไม่มีทางรู้ได้ว่าคนที่มาจะดีหรือร้าย เพราะฉะนั้น การนัดเจอ ควรทำในที่สาธารณะ เช่นตามปัํม ตามห้าง ตาม macDonald หรือที่ไหนก็ได้ที่มีคนผ่านไปผ่านมา

พยายามหาเพื่อนไปด้วย ถ้าเราเป็นผู้หญิง หาเพื่อนที่เป็นผู้ชายไปด้วยก็ดี ไม่แน่ใจว่าเพื่อนผู้หญิงเหมือนกันจะช่วยอะไรได้มั้ยหากเกิดอะไรขึ้นจริง แต่ก็ยังดีกว่าอยู่คนเดียว โดยเฉพาะการเปิดบ้าน garage sale แนวว่าให้คนมาจิ้มๆ ชี้ๆ เลือกดูของถึงบ้าน อันนี้ก็ต้องระวัง จะว่าไปคนซื้อก็กลัว คนขายก็กลัว เพราะฉะนั้นต่างคนต่างหาเพื่อนมาจะดีที่สุด

การจ่ายเงิน
เวลาขายของกันก็ให้ทำทุกอย่างด้วย "เงินสด" ไม่ต้องรับเช็คไม่ต้องเครดิต ไม่ต้องรอโอนอะไรให้วุ่นวาย แต่ถ้าไม่มีเงินสดจริงๆ เราเป็นคนขายแนะนำว่า เงินไม่มาของไม่ไป อย่าไปให้ของก่อนแล้วค่อยเก็บตัง อันนี้อาจโดนเชิดได้

ปสก ส่วนตัว
เราก็ค่อนข้างโอเคกับการขายของ ครั้งแรกที่มาอเมริกาตื่นเต้นสุดๆ นัดไปซื้อตู้ Ikea (คราวนั้นเป็นผู้ซื้อ) ก็ไปถึงบ้านคนขาย ดีที่คนขายดูหน้าตาไว้ใจได้ แล้วเป็นบ้านทาวน์โฮมอยู่ชั้นหนึ่ง ก็เลยกล้าซื้อขายกัน แต่ถ้าต้องขึ้นไปชั้นสามนี่ก็ลังเลอยู่ เพราะถ้าเค้าเกิดจับเรา rob ปล้นขึ้นมาก็ไม่มีใครช่วยได้ ณ จุดนั้น (ระวังนะจ๊ะ)  ซึ่งตู้นี้ก็เป็นปสกเดียวที่เราซื้อของมือสองจากคนแปลกหน้า โชคดีที่ผ่านไปได้ดว้ยดี

ครั้งถัดมา เราเริ่มเป็นผู้ขาย ตอนย้ายบ้านครั้งแรก ขายเตียง ตู้ โต๊ะ ไปให้คนนึง่ที่ติดต่อมาจาก Craigslist เหมือนกัน คราวนี้เราเป็นฝ่ายรอเค้ามาที่บ้าน ก็เลยชวนเพื่อนมาสองคน (ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง) คนที่มาก็มากับเพื่อนอีกคน (ผู้ชายสองคน) ก็มาง่ายๆ เอาเตียงออก เลาะเฟอร์ แล้วเค้าก็ขนรถขึ้นรถกระบะที่เค้าเช่ามาไป จ่ายเงินเราเป็นเงินสด say goodbye รักสนุกไม่ผูกพัน

ครั้งที่สาม เป็นการขายของครั้งล่าสุด เราลงขายพวกเครื่องใช้ไฟฟ้ากระจุกกระจิก เช่น เครื่องดูดฝุ่น เครื่องปั่นน้ำผลไม้ หม้อ กระทะ ก็มีคนติดต่อมาพอควร คนนี้ที่ได้เจอกันเป็นคนปากีสถาน (แต่ไม่แขกมาก) เพิ่งย้ายมาจากนิวยอร์ค อยากได้หลายอย่างเค้าเลยขอมาดูที่ห้อง ด้วยความที่คอนโดเราเป็นคอนโดที่ security ดี ก็ต้องพาเค้าเข้ามา เลยชวนเพื่อน ชายหญิง เซทเดิมมาเป็นไม้กันหมา 555 เค้ามาถึงก็ชี้ๆ ต่อราคาเล็กน้อย แล้วก็แบบของเกือบครึ่งนึงไป ได้มา $100 นึง ^^" แต่สิ่งที่เค้าได้ไปก็ค่อนข้างคุ้มทีเดียว เพราะเราก็ขายลดครึ่งราคาโละๆไป มีพวก เครื่องดูดฝุ่น printer toaster oven แล้วก็เครื่องครัว

ครั้งที่ส่ี่ เป็นการขายของลอตเดียวกัน คนซื้อต้องการแค่ราวตากผ้ามูลค่า $4 -_-" จับความ (และอนุมาน) ได้ว่าเค้ากำลังมาชอป IKEA กับครอบครัวในเมือง (เจ๊มากจากชานเมือง) แล้วบ้านเราเป็นทางผ่าน คงเป็นของที่เค้าคิดจะซื้ออยู่แล้วก็เลยแวะมาแบกไป จ่ายเงินมา $4 อย่างฮาาาา

ครั้งที่ห้า เป็นการขายฟูกที่นอน (ที่ขายไม่ออกซักที) นัดกันเป็นดิบดี เค้ามาถึงตัวคนเดียวกับรถเล็กๆคันนึง คุยไปคุยมา ชวนเข้าบ้านมายกฟูกละ เค้าดันเอะใจถามว่านี่มันไม่ใช่ Queen size นี่นา
เราบอกว่า เอ๊ะ สงสัยเราโก๊ะลงประกาศผิดไซส์ เค้าก็บอกว่าเค้าคงโก๊ะดูขนาดไม่ดี (มารู้ภายหลังว่าเราเองแหละที่ลงผิด) เค้าดูสภาพฟูกที่ใหม่ และดีกมาก็ทำหน้าเสียดาย เพราะว่ามันคุ้มจริงๆ แต่มันไม่ฟิตญเตียงเค้า ก็เลยเดินคอตกจากไป ครัั้งนี้เสียทั้งเวลา และไม่ได้ตังด้วย -_-"

ครั้งที่หก เป็นการนัดเจอคนที่ขอมาดูรถครั้งแรก ตื่่นเต้นสุดๆ เพราะครั้งนี้ไม่ได้ชวนเพื่อนมาด้วย (ชวนเริ่มบ่อยเกินเกรงใจ) ก็เลยจอดรถไว้หน้าลอบบี้คอนโด กะว่าเอาล่ะวะ ปลอดภัยสุดๆแล้วเพราะคอนโดมีกล้องวงจรปิด ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเราอย่างน้อยมีวิดิโดดูแน่ว่าสุดท้ายที่เรายังมีชีวิตแต่งตัวแบบไหน ออกไปเวลาไหน ก็นัดเจอกับคนซื้อหน้าคอนโด คนซื้อหล่อ หน้าตาดีเชียว ขับรถเบนซ์อย่างใหม่มาด้วยยย เหตุผลที่เค้าจะซื้อรถเก่าๆ เน่าๆ ของเราเพราะเค้าบอกว่าเค้าเพิ่งซื้อเบนซ์มาแต่ว่าขับ hardcore มาก คือขับวันนึงเกิด 100 ไมล์ ซื้อมาไม่นานล่อไปสามหมื่นไมล์แล้ว เค้าเลยอยากได้รถที่เอาไว้ขับไปทำงาน ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียหรืออะไร คุยกันทุกอย่างดีหมด แต่ติดที่ว่าเค้าเคย auction รถมาก่อนเลยดูรถเก่ง เค้าบอกว่าเค้าคงให้ราคาตามที่เราต้องการไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ต่อหนักนะ ไม่ได้ตื๊ออะไร เค้าก็เอาไปลองขับบอกว่าดีทุกอย่าง ยกเว้นว่าเค้าเล็งเห็นว่าจะต้องเปลี่ยนอะไรมูลค่าเท่าไหร่บ้าง สุดท้ายก็เลยไม่เอา กินแห้ว

สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเลยหมดเวลาไปกับการรับสาย และนัดคน แต่เอาเข้าจริงก็โดนเชิดไม่มาตามนัดซะเยอะ เพราะกว่าจะนัดกว่าจะอะไร แต่ละคนก็คงมีหลาย option หลายตัวเลือก สุดท้ายก็เลยได้เจอแค่คนเดียว :'(  แต่ว่าวันนี้จะมีนัดเจออีกสองสามคน เลยดูอยู่ว่าขอให้เวิร์คๆ แล้วขายมันทิ้งไปซะที

ของใหญ่มูลค่ามากที่สุดแล้วเนี่ย หมดจากนี้ทุกอย่างก็เบๆ พร้อมแพคแล้ว

ตอนนี้ได้ประมาณ 7 ลังใหญ่ๆ ละ น่าจะไม่เกิน 15 ลังที่จะต้อง ship เรือกลับ ตื่นเต้นๆ


No comments:

Post a Comment